ทำอะไรดี...ธุรกิจเล็กๆ ของเรา

หลายท่านคงเคยรู้สึกกับเช้าวันจันทร์ในรูปแบบต่างๆ กัน เช่น...
"เฮ้อ!!...วันจันทร์อีกแล้ว"
"ต้องตื่นแต่เช้าไปทำงานอีกแล้ว..เซ็งเป็ด.
"เบื่อเช้าวันจันทร์ว่ะ!! ".....หรืออะไรประมาณนี้

เคยนึกอยากจะออกมาทำธุรกิจของตัวเองบ้างรึเปล่า...เคยคิด แต่ไม่กล้าใช่ป่ะคะ
มีเรื่องเล่าให้อ่านเรื่องหนึ่งค่ะ...เป็นเรื่องของเพื่อนของเพื่อนสนิทคนหนึ่ง

เธอเป็นผู้หญิงที่มีความรู้ความสามารถคนหนึ่งค่ะ...เรียนจบจากมหาวิทยาลัยที่น่าจะเป็นที่นิยมระดับต้นๆ ในกรุงเทพนี่แหละ

เมื่อเรียนจบก็ได้เข้าทำงานในบริษัทที่ถือว่าใหญ่โตแห่งหนึ่งเลยทีเดียว...เงินเดือนก็หลายหมื่นบาท  แต่ปัญหาก็คือ...เธอเครียดเข้าขั้นวิกฤติ...วันจันทร์นี่แทบจะเป็นศัตรูกับชีวิตเลยว่าอย่างนั้นค่ะ  แต่ในขณะเดียวกันเธอก็มีความสามารถทางด้านนาฏศิลป์...เสาร์อาทิตย์เธอก็รับสอนพิเศษทางนี้อีกทาง  เธออยากจะลาออกจากงานบริษัทฯ...แต่ด้วยเงินเดือนขนาดนี้...พ่อแม่...และความเสี่ยงหลายๆ อย่าง ทำให้เธอยังไม่กล้าตัดสินใจออกมา... เพื่อนก็เลยยุ...ไม่ใช่ยุสุ่มสี่สุ่มห้านะคะ...เพราะเห็นในความสามารถอีกด้านที่เธอมี และความสามารถนั้นน่าจะสร้างอาชีพให้กับตัวเธอเองได้ ก็ยุกันอยู่สักพัก...เธอก็ตัดสินใจ รอโบนัสปลายปีก้อนสุดท้ายจากบริษัทเดิม เพื่อมาใช้ลงทุนในการเปิดสอนนาฏศิลป์ให้กับเด็กเล็กๆ ...แล้วธุรกิจโรงเรียนสอนนาฏศิลป์สำหรับเด็กเล็กก็เกิดขึ้นนับจากวันนั้นจนกระทั่งทุกวันนี้ ได้รับอนุมัติให้จัดตั้งเป็นโรงเรียนแล้ว นับเวลาได้ประมาณ 5 ปี มีเวลาไปเที่ยวต่างประเทศ มีเวลาไปพักผ่อนตามที่ต้องการ...ตอนนี้เธอกำลังจะซื้อบ้านราคา 6 ล้าน จากธุรกิจเล็กๆ อันนี้...แล้วคุณล่ะกล้าตัดสินใจรึยัง

ลองประเมินศักยภาพเบื้องต้นของตัวเองดูก่อน...ใช้หลักง่ายๆ ตามนี้ค่ะ

1. ชอบอะไร : ท่านมีความชอบ หรือมีงานอดิเรกใดในยามว่าง เพื่อจะได้นำมาเป็นปัจจัยในการ พิจารณา เช่น ชอบอ่านหนังสือ ชอบทานอาหาร ชอบทานกาแฟ เป็นต้น

2. ดูความต้องการของผู้บริโภค : พิจารณาถึงความต้องการของตลาดว่าในสภาวการณ์ขณะนั้นสภาพตลาดของธุรกิจหรือสินค้าชนิดนั้น อยู่ในช่วงใด หรือทำเลที่เรามีพอจะทำอะไรได้ ก็ไปฝึกทำสิ่งนั้นมา

3. ทำอะไรได้ : ก็ทำในสิ่งที่ตนเองทำได้มันก็จะยิ่งง่าย (เหมือนเรื่องที่เล่า)

4. เลือกธุรกิจ/สินค้าที่สามารถต่อยอดจากของเดิม : พิจารณาจุดอ่อน/จุดแข็งของผลิตภัณฑ์นั้น และนำมาพัฒนาเป็นผลิต ภัณฑ์ใหม่ขึ้นมาจากของเดิม

5. การรับช่วงการผลิต : ธุรกิจหลายประเภทที่ต้องพึ่งพาอาศัยจากแหล่งผลิตสินค้าอื่นเพื่อช่วยผลิตสินค้า อาจเนื่องจากไม่สามารถผลิตได้ทั้งหมดทุกขั้นตอน หรือไม่มีความชำนาญในการผลิต ทำให้เกิดการแบ่งงานกันทำตามความถนัด พวกงานเอาท์ซอร์ทจากบริษัท หรือหน่วยงานใหญ่ๆ ที่ตอนนี้หลายหน่วยงานเขาก็ว่าจ้างบริษัทที่ทำงานให้เฉพาะทาง เช่น ทำเงินเดือน ทำโปรแกรม บันทึกข้อมูลต่างๆ อันนี้ก็สามารถทำได้

เมื่อพิจารณาปัจจัยเหล่านี้แล้วอาจต้องอาศัยความกล้าเพิ่มอีกหน่อย เพื่อจะทิ้งความเป็นมนุษย์เงินเดือน..จากที่ไม่ต้องคิดอะไรมากมาย มารับผิดชอบธุรกิจตัวเองแบบเต็มๆ ได้ก็ได้เต็มๆ เสียก็เีสียเต็มๆ เหมือนกัน และอีกปัจจัยที่สำคัญก็คือเงินทุน..ทุนเริ่มต้นถ้าเป็นเงินนิ่งที่เราเก็บไว้เพื่อการลงทุนจะดีสำหรับธุรกิจมากๆ...เพราะไม่ต้องเสี่ยงกับการเป็นหนี้เพิ่มขึ้นอีก...เพราะคนเราเวลาเป็นหนี้แล้วความเครียดก็จะเกิด...พอความเครียดเกิดแล้วทำอะไรก็จะไม่ค่อยราบรื่นเท่าที่ควร

เอ้า!...ไปลองตัดสินใจกันดูค่ะ ในภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ เราจะทำอะไรได้บ้าง
ใช้สติให้มากๆ...เกิดหนเดียว ตายหนเดียวค่ะ...สู้ๆ